Thursday, January 30, 2014

วิธีการเลือกซื้อกลองชุด


  ถ้าคุณกำลังมองหา หรือ กำลังตัดสินใจซื้อกลองชุด สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ (ถ้าพิจาณาจากคุณภาพเป็นหลัก)  สามารถแบ่งพิจารณาได้เป็น  2 ส่วน หลักๆ คือ




 “ เสียง และ ความทนทาน ”



1. คุณภาพเสียงของกลอง

      ถามว่าเสียงกลองจะดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง (ไม่พูดถึงการจูนเสียงกลองหรือความสามารถในการตี เพราะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่ใช่ส่วนของอุปกรณ์)  “ ไม้ ” ที่ถือว่าเป็น ปัจจัยสำคัญที่สุด ที่จะบอกว่า กลองชุดนั้น เสียงจะเป็นอย่างไร  ซึ่งเช่นเดียวกับเครื่องดนตรี Acoustic อื่นๆ เช่น กีต้าร์โปร่ง หัวใจสำคัญของกีต้าร์ก็อยู่ที่ตัวไม้ที่ใช้ผลิต สายกีต้าร์จะมีส่วนอยู่บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อย

การเลือกซื้อกลองชุด จึงควรให้ความสำคัญกับ “ ไม้ที่ใช้ผลิต ”  ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่า ระดับของกลองชุดนั้นๆว่าอยู่ในระดับคุณภาพดี หรือธรรมดา  ไม้ที่นิยมนำมาใช้ผลิตกลองระดับเริ่มต้น (ที่มีคุณภาพดี มาตราฐาน) ได้แก่ ไม้ HAMOGANY  ซึ่งเป็นไม้ที่นิยมนำมาผลิตกลองชุดมากที่สุด ไม้ชนิดต่อมาที่นำมาใช้ผลิตกลองชุด ได้แก่ ไม้ BIRCH ซึ่งกลองชุดที่ผลิตจากไม้ชนิดนี้จะมีราคาที่สูงกว่ากลองที่ทำมาจากไม้ MAHOGANY และ ไม้ที่นำมาใช้ผลิตกลองได้คุณภาพเสียงดีที่สุด คือ ไม้ MAPLE  ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ผลิตกลองรุ่นสูงของแต่ละยี่ห้อเท่านั้น จะพูดว่า กลองชุดแต่ละรุ่นที่มีราคาแตกต่างกันนั้น หัวใจสำคัญจึงอยู่ที่ ชนิดของไม้ที่ใช้ผลิตก็ว่าได้

หลายคนเข้าใจว่า ซื้อกลองอะไรก็ได้ แค่เปลี่ยนหนังกลองให้ดีขึ้น เสียงกลองก็จะดีขึ้น ..

    ความจริงนั่นก็เพียงแค่ส่วนหนึ่ง การเปลี่ยนหนังกลองที่ดีขึ้น มีส่วนช่วยทำให้กลองชุดนั้นๆเสียงดีขึ้น แต่จะดีขึ้นเท่าที่ไม้ของกลองชุดนั้นๆจะทำได้   แต่การเปลี่ยนหนังกลอง ไม่ได้ทำให้เสียงกลองชุดหนึ่ง กลายเป็นอีกชุดหนึ่งไปได้  อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น  “ ถ้าเอาล้อรถแข่งมาใส่กับรถเก๋ง อาจทำให้รถเก๋งวิ่งเร็วขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้รถเก๋งกลายเป็นรถแข่งไปได้ ”


2.คุณภาพความทนทาน

         เราทราบกันดีอยู่แล้ว กลองเป็นเครื่องดนตรีประเภท ตี ต้องโดนแรงกระแทกอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นคุณภาพของอุปกรณ์ ตั้งแต่ น็อตกลอง เกลียวกลอง ตัวล็อค จนไปถึง ขาตั้งส่วนต่างๆ ซึ่งสามารถเรียกรวมกันว่า HARDWARE ต้องมีคุณภาพดี ได้มาตราฐาน

การจะเลือก HARDWARE ว่าแข็งแรงหรือไม่นั้น เราสามารถพิจารณาได้จาก “ ประเทศที่ผลิต  ” ถ้าพิจารณากลองชุดระดับราคาไม่เกิน  1 แสนบาท ฐานการผลิตที่ส่วนมากจะอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งผลิต HARDWARE ออกมาคุณภาพดีกว่า HARDWARE ที่ผลิตจากประเทศอื่นๆ อย่างเช่น จีน หรือ อินโดนีเซีย ซึ่งมีราคาถูกกว่า

   การพิจาณาความแข็งแรงของ HARDWARE จากขนาดของท่อ HARDWARE ก็สามารถแยกแยะได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าคุณเคยเล่นกลองชุดมาก่อน คุณจะทราบว่า ปัญหาที่จะเกิดกับ HARDWARE มักไม่เกิดกับชิ้นส่วนที่เป็นท่อเหล็ก แต่จะพบปัญหามากในส่วนของข้อต่อต่างๆ ที่ต้องรับแรงกระแทกโดยตรงจากการตี หรือการใช้งาน


เท่านี้ คุณก็ทราบข้อมูล ในการตัดสินใจซื้อกลองชุดของคุณได้แล้ว

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก www.geyemusic.com

No comments:

Post a Comment